ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ผู้ผลิตสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ภายใต้มาตรฐานเครือข่ายเดียวกัน กฎกติกาหรือข้อตกลงที่ใช้เป็นมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูล ระหว่างผู้รับ และผู้ส่งเรียกว่าโพรโทคอล (protocol) ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการในการรับส่งข้อมูล รูปแบบของการรับส่ง อุปกรณ์หรือสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล วิธีการตรวจสอบความผิดพลาดของข้อมูล รวมถึงความเร็วในการรับส่งข้อมูล เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เครือข่าย ที่ใช้โพรโทคอลชนิดเดียวกันกับการสื่อสารของมนุษย์ที่ต้องใช้ภาษาเดียวกันจึงสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ ตัวอย่างการใช้โพรโทคอลเป็นข้อตกลงในการสื่อสาร
รูปที่ 1.29 การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วยมาตรฐาน TCP/IP ที่มา : https://pataor.files.wordpress.com/2015/09/1651417.png |
ในการสื่อสารข้อมูล เพื่อให้เกิดความสะดวก และคล่องตัวในการสื่อสาร สำหรับโพรโทคอลที่ใช้เป็นมาตรฐานในการสื่อสารแบบใช้สาย และแบบไร้สาย ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น ทีซีพี/ไอพี
(Transmission Control Protocol / Internet Protocol: TCP/IP) เป็นโพรโทคอลที่ใช้ในการสื่อสารในระบบอินเทอร์เน็ต โดยมีการระบุผู้รับผู้ส่งในเครือข่าย และจัดการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า แพ็คเก็ต (packet) ส่งผ่านไปในอินเทอร์เน็ต และมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ส่งไปนั้น จะได้รับอย่างถูกต้องและครบถ้วน ในกรณีที่ข้อมูลเกิดผิดพลาดระหว่างทางจะมีการร้องขอเพื่อส่งข้อมูลใหม่ให้
รูปที่ 1.30 ตัวอย่างการส่งข้อมูลโดยใช้โพรโทคอลทีซีพี/ไอพี ที่มา : https://strikernzero.blogspot.com/2013/09/blog-post_18.html |
ไวไฟ (Wireless Fidelity : WiFi) มักถูกนำไปอ้างถึง เทคโนโลยีเครือข่ายแบบไร้สาย ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 ซึ่งใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.4 GHz เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสาร ไวไฟเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกัน ของผู้ผลิตอุปกรณ์ เพื่อทดสอบว่าอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นทำงานได้ตามมาตรฐานของ IEEE 802.11 โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจากไวไฟ จะสามารถ ติดต่อสื่อสารถึงกันได้
รูปที่ 1.31 อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยมาตรฐานไวไฟ ที่มา : https://www.tutorialspoint.com/wimax/images/wireless_device.jpg |
ผู้ใช้งานในบ้าน หรือสำนักงานขนาดเล็ก ส่วนใหญ่นิยมใช้ไวไฟ การติดตั้งระบบแลนไร้สาย (Wireless Lan) โดยมีการติดตั้งแผงวงจร หรือ อุปกรณ์รับส่งไวไฟ ที่เรียกว่า การ์ดแลนไร้สาย (Wireless Lan Card) ซึ่งปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจะมีตัวรับส่งสัญญาณไวไฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว สำหรับรัศมีการใช้งานของแลนไร้สายขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับส่งสัญญาณของอุปกรณ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ห่างจากจุดเชื่อมต่อแบบไร้สาย (Wireless Access Point) ไม่เกิน 100 เมตร สำหรับการใช้งานภายในอาคาร และไม่เกิน 500 เมตร สำหรับการใช้งานที่โล่งนอกอาคาร แต่ในการใช้งานจริง อาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้รัศมีการใช้งานสั้นลง เช่น ผนังอาคาร หรือตำแหน่งจุดเชื่อมต่อแบบไร้สายที่อยู่ในมุมอับ ตัวอย่างระบบแลนไร้สาย
รูปที่ 1.32 ระบบแพนไร้สาย โดยใช้ไออาร์ดีเอ ที่มา : http://na5241.blogspot.com/2017/08/blog-post_25.html |
บลูทูธ (Bluetooth) เป็นโพรโทคอลที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่ 2.41 GHz ในการรับส่งข้อมูลโดยคล้ายกับแลนไร้สาย ตามมาตรฐาน IEEE 802.15 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ สามารถติดต่อสื่อสาร กับอุปกรณ์ต่อพ่วงไร้สายอื่น ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เมาส์ คีย์บอร์ด พีดีเอ โทรศัพท์ เคลื่อนที่ และหูฟัง เข้าด้วยกันได้โดยสะดวก โดยมาตรฐานบลูทูธสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วมากกว่า 3Mbps อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รองรับการทำงานแบบบลูทูธ จะต้องถูกตั้งค่าใช้งานของระบบโดยจะมีการจับคู่ระหว่างอุปกรณ์ที่ติดต่อกันก่อน เมื่อเข้าใกล้กันภายในรัศมีของการสื่อสารประมาณ10 เมตร จะสามารถตรวจสอบพบอุปกรณ์อื่นที่เคยจับคู่ไว้แล้วได้ เกิดเป็นระบบแพนไร้สายทำให้การรับส่งระหว่างกันทำได้โดยง่าย ในการใช้งานบลูทูธ จะมีอุปกรณ์ตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์หลัก และอุปกรณ์ที่เหลือเป็นอุปกรณ์รอง ซึ่งอุปกรณ์หลักจะทำหน้าที่ควบคุมการส่งข้อมูลของอุปกรณ์่รองตัวอื่น ๆ ทั้งหมด
รูปที่ 1.33 ตัวอย่างระบบแพนไร้สายโดยใช้บลูทูล ที่มา : http://schoolweb.eduzones.com/uploads/20140603132140A89JUTN/contents/20140605152258.PNG |
>> คลิกทำแบบฝึกหัด